ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

* ข่าว

  :Onion-s-163[1]:  💥สมัครมวยหู หรือ 💥เล่นมวยพักยก ธีรวัฒน์ ล็อค3 โทร. หรือ ไลน์🆔 0896320862   🔴🔵

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของครูตุ๊ย  (อ่าน 4641 ครั้ง)

เป้งปากน้ำ

  • โปรโมเตอร์
  • ****************
  • กระทู้: 6,155
  • ชอบกด Like + 798
ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของครูตุ๊ย
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2013, 07:53 »
รายงานข่าวเมื่อ 8 ก.พ. แจ้งว่า "ครูตุ๊ย" ยอดธง เสนานันท์ หรือชื่อจริง ยอดธง ศรีวราลักษ์ ซึ่งล้มป่วยในวัยชราเสียชีวิตลงอย่างสงบที่ โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อเวลา 13.45 น. ด้วยโรคชรา ซึ่งมีอาการหลายโรครุมเร้า คณะแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นอาการป่วยทางสมองที่ได้รับความกระทบกระเทือนมาเมื่อครั้งครูยอดธง ยังชกมวย กระทั่งล่าสุดเกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตลง รวมสิริอายุได้ 76 ปี ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้อง และลูกศิษย์



สนทะเล

  • โปรโมเตอร์
  • ****************
  • กระทู้: 6,705
  • ชอบกด Like + 975
Re: ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของครูตุ๊ย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2013, 09:37 »
ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากการไปอย่างไม่มีวันกลับของบรมครูมวยไทย อ.ยอดธงหรือครูต้ย
ถ้าจำไม่ผิดท่านได้สร้างมวยไทยดังๆประดับวงการไว้มากมายที่เอ่ยชื่อมาไม่มีใครที่ไม่รู้จักเช่น สามารถ
ก้องธรณี
 วันนี้เลยขออนุญาตนำข้อมูลเกียรติประวัติของท่านเล็กๆน้อยๆเพื่อให้น้องๆเด็กรุ่นใหม่บางท่านที่อาจจะไม่ทันยุคของท่านมาให้รับทราบกันครับ
ครูยอดธง เสนานันท์
(Yodtong Senanan) 
ข้อมูลส่วนตัว
วันเกิด 28 สิงหาคม พ.ศ. 2480
สถานที่เกิด  จังหวัดราชบุรี
วันที่เสียชีวิต 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
สถานที่เสียชีวิต จังหวัดชลบุรี
ยอดธง เสนานันท์ หรือ ยอดธง ศรีวราลักษณ์ เกิดที่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2480 เป็นครูสอนวิชามวยไทยผู้อุทิศตนเพื่อส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ประจำชาติมาช้านาน จนได้รับการยกย่องเชิดชูจากสังคมในเวลาต่อมา โดยทั่วไปมักเรียกชื่อครูยอดธงกันว่า "ครูตุ๊ย" หรือ "ครูตุ้ย" นอกจากนี้ท่านยังมีลูกศิษย์เป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงหลายราย อาทิ สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ รวมทั้ง ยอดสนั่น 3เคแบตเตอรี่[1] อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อให้เกิดนักมวยไทยแชมป์โลกมาแล้ว 57 ราย จึงนับเป็นผู้สร้างแชมป์เปี้ยนมวยไทยระดับโลกเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ไทย[2] ปัจจุบันครูยอดธงเป็นเจ้าของค่ายมวยศิษย์ยอดธง ซึ่งอยู่ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิค่ายมวยยอดธงนานาชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย
ประวัติ
ครูยอดธง เสนานันท์ ผู้สอนวิชามวยไทยและได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลของวงการ[2]ครูยอดธง เป็นผู้ที่ชอบมวยมาตั้งแต่ 4 ขวบ อีกทั้งชื่นชอบกีฬาทุกประเภทที่เป็นการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นปลากัด ไก่ชน จบประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนเทศบาล 1 อำเภอเมืองบ้านโป่ง เมื่อมีอายุได้ 13 ปี ก็ย้ายมาอยู่กับพี่สาวที่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แล้วเริ่มหัดมวยอย่างจริงจังกับครูสิทธิเดช สมานฉันท์ โดยทำการชกมวยครั้งแรกที่งานวัดเขาพระบาทบางพระ อำเภอศรีราชา ตั้งแต่อายุ 15 ปี ด้วยค่าตัวเพียง 50 บาท จากนั้นก็ตระเวนชกเรื่อยมา พออายุได้ 17 ปี ครูสุวรรณ เสนานันท์ได้ชวนมาอยู่ค่ายมวย และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ยอดธง เสนานันท์” ท่านได้เดินสายชกมวยทั่วประเทศ ก่อนเลิกชกเพราะแม่ของภรรยาขอร้อง จึงตั้งค่ายมวยศิษย์ยอดธง ที่มาบตาพุด ก่อนย้ายมาอยู่ที่อำเภอบางละมุง และใช้ชื่อนี้เรื่อยมาตลอดการชกกว่า 50 ไฟท์ จนกระทั่งแขวนนวม[5][2][6]

โดยมีชาวต่างชาติรุ่นแรกที่ได้มีฝึกมวยไทยที่ค่ายมวยแห่งนี้คือชาวดัตช์ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ (ในสมัยที่ ก้องธรณี และสามารถ พยัคฆ์อรุณ รวมทั้ง ศรศิลป์ ศิษย์เนินพยอม กำลังเป็นที่รู้จักในวงการ) มาฝึกที่ค่ายมวยแห่งนี้ ซึ่งมี "ร็อบ กามัน" มาฝึกฝนเป็นคนแรก และมี "รูเซียน การ์บิ้น" เป็นรายต่อมา ก่อนที่รูเซียน การ์บิน จะขออนุญาตเปิดโรงฝึกโดยใช้ชื่อ "ศิษย์ยอดธงยิม" ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่งผลให้ค่ายมวยดังกล่าว เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเวลาต่อมา[7]

ในภายหลัง มีเหตุการณ์ที่ "โอซามู โนกูจิ" พยายามให้โลกหลงเข้าใจว่ามวยไทยมีต้นกำเนิดจากคิกบ็อกซิ่งของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งมีผู้กล่าวหาว่าการรำไหว้ครูเป็นการเต้นรำแบบชนเผ่าที่ไร้อารยธรรม ส่งผลให้ครูยอดธงเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากมวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ซึ่งต่อมา "โอซามู โนกูจิ" ได้นำนักมวยคิกบ็อกซิ่งมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อชกกับนักมวยไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2515 ครูยอดธงอาสานำทัพมวยไทยไปสู้กับคิกบ็อกซิ่ง ในรายการบีเอส ซามูไร[8] และได้รับชัยชนะ หลังจากนั้นรัฐบาลไทยภายใต้การนำของจอมพลถนอม กิตติขจร จึงได้มีคำสั่งเนรเทศ โอซามู โนกูจิ ออกจากประเทศภายใน 24 ชั่วโมง ในฐานะที่เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาของประเทศชาติ และหลังจากที่โอซามู กลับถึงญี่ปุ่น ทางการญี่ปุ่นก็มีคำสั่งห้ามโอซามู โนกูจิ ยุ่งเกี่ยวกับวงการมวยอีกต่อไป เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ประเทศ[9]

 นักแสดงรับเชิญครูยอดธงยังได้รับเชิญให้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์ องค์บาก โดยเป็นผู้อาวุโสข้างสังเวียนในฉากที่ ทิ้ง (จา พนม) สู้กับ บิ๊กแบร์ แม้จะไม่ได้มีการอ้างถึงชื่อครูยอดธงในภาพยนตร์ แต่หลายคนเชื่อว่าบุคคลในภาพยนตร์คือครูยอดธง[10] ตลอดจนได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ เกิดมาลุย ด้วยเช่นกัน

 รางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งหนึ่ง ครูยอดธงได้รับเงินรางวัลจากการเสี่ยงโชคสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่หนึ่งพร้อมแจกพอต ประจำงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 และท่านได้ใช้เงินนี้ในการช่วยเหลือวงการมวยและสังคม โดยคงเหลือไว้กับตัวประมาณสิบล้านบาท จากการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคม ส่งผลให้ครูยอดธงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีในเวลาต่อมา
กำปั้นนอกสังเวียนครูยอดธงยังได้เขียนอัตชีวประวัติของตนเองที่มีชื่อว่า กำปั้นนอกสังเวียน ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นโดยสำนักพิมพ์แพรว เนื้อหาได้กล่าวถึงประสบการณ์ของการเป็นนักมวย, การเปิดค่ายมวย, การนำนักมวยไทยไปประชัญฝีมือกับนักมวยคิกบ็อกซิ่งเพื่อประกาศศักดิ์ศรีสถาบันมวยไทย ตลอดจนความเชื่อตามมุมมองของตนที่เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม และความสุขทางใจในการอุทิศตนเพื่อสังคมที่มีค่ามากกว่าชื่อเสียงเงินทองที่ได้รับ
 การเสียชีวิตครูตุ้ย ยอดธง เสนานันท์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลชลบุรี หลังจากได้ล้มป่วยลงด้วยโรคของคนวัยชราภาพ โดยเฉพาะอาการป่วยทางสมองที่ได้รับกระทบกระเทือนเมื่อครั้งครูยอดธง เป็นนักมวยตั้งแต่อายุ 17 ปีเป็นต้นมา ซึ่งคณะแพทย์วินิจฉัยและแจ้งให้ทางญาติรับทราบสาเหตุการเสียชีวิต จากอาการติดเชื้อกระแสเลือด โดยเสียชีวิตลงเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
[แก้] ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์11 กุมภาพันธ์ 2551 ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขามวยไทยศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง จากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ณ สวนอัมพร กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ถือได้ว่าครูยอดธง เป็นบุคคลแรกของโลกที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์นอกรั้วมหาวิทยาลัย[11]
[แก้] รางวัลเกียรติยศ11 เมษายน พ.ศ. 2534 ได้รับโล่พระราชทานครูมวยไทยดีเด่นแห่งชาติ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วังสวนจิตรลดา กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. 2539 ได้รับคุณวุฒิมวยไทยขั้นสูงสุด มงคลทอง ประเจียดทอง จากสมาพันธ์สมาคมมวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ
ผมขอแสดงความเสียใจจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วครับผม

Kom

  • ผู้ช่วยโปรโมเตอร์
  • **********
  • กระทู้: 2,859
  • ชอบกด Like + 543
Re: ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของครูตุ๊ย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2013, 17:48 »
ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดชึ้งครับจากผมนาย คมเพชร  รุ่งอรุณ

 


SimplePortal 2.3.6 © 2008-2014, SimplePortal